Margaux เมืองแห่งไวน์แดงบอร์โดซ์ ผลผลิตชั้นดีของฝรั่งเศสที่สร้างไวน์ดังเบอร์ต้น ๆ ของโลก

เมืองมาโกซ์ (Margaux) เป็นพื้นที่การเพาะปลูกองุ่นชื่อดังที่สำคัญของ Haut-Médoc และเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ผลิตไวน์ที่ได้การรับรอง AOC ของแคว้นบอร์โดซ์ (Bordeaux) ที่เป็นแหล่งปลูกองุ่นและมีการตั้งโรงผลิตไวน์เป็นที่แรก ๆ ในบอร์โดซ์

ประวัติและชื่อเสียงด้านไวน์ของเมืองมาโกซ์ (Margaux)

นักประวัติศาสตร์ได้ให้ความเห็นว่าสมัยแรกเริ่มของการปลูกไวน์องุ่นของโรมันที่เมืองมาโกซ์ คือช่วงที่ก่อนปีที่ 2000 ซึ่งชื่อเสียงของโรงผลิตไวน์ชั้นดีเยี่ยมในเมืองนี้ถูกสั่งสมมาย้อนไปตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 17 โดยในปีค.ศ. 1855 โรงผลิตไวน์จากเมืองมาโกซ์ได้สร้างไวน์คุณภาพดีเลิศที่ได้รับการยกย่องให้เป็นไวน์ระดับกรองด์ ครูส์ (Grand Cru Classé) ถึง 21 ตัว ซึ่งในปัจจุบันยังมีการผลิตไวน์ 20 ตัวนี้อยู่ เมืองนี้ได้สร้างชื่อเสียงไว้กับคอดื่มทั่วโลก และได้มีคนดังของโลก อย่างประธานาธิบดีคนที่ 3 ของสหรัฐอเมริกา Thomas Jefferson ไปเยือนโรงผลิต Château Margaux ที่สร้างไวน์ชื่อดังระดับโลก และโรงผลิตอื่น ๆ ในบอร์โดซ์ด้วย

ไวน์แดงจากเมืองมาโกซ์ (Margaux)

เมืองมาโกซ์จัดว่าอยู่ทางฝั่งซ้าย หรือ Left Bank ของแคว้นบอร์โดซ์ ความพิเศษของผลผลิตองุ่นที่ได้จากเมืองนี้ มาจากภูมิประเทศการเพาะปลูกที่เหมาะสม ตั้งแต่เนื้อดินที่ปลูกองุ่นแล้วทำให้เถาวัลย์ขององุ่นแข็งแรง โดยพื้นดินที่เมืองนี้จะมีลักษณะร่วนซุย ไม่อุ้มน้ำ และไม่กักเก็บแร่ธาตุในดินไว้นาน ซึ่งส่งผลให้รากของต้นองุ่นต้องหยั่งลึกลงไปอีกเพื่อตามหาแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการเติบโต ต้นและเถาองุ่นในภูมิภาคนี้จึงเติบโตอย่างแข็งแกร่งและออกผลที่สมบูรณ์ครบรส ซึ่งที่มาร์โกซ์จะมีการปลูกองุ่นถึง 6 ชนิดด้วยกัน ได้แก่

1. Cabernet Sauvignon
2. Merlot
3. Cabernet Franc
4. Malbec
5. Petit Verdot
6. Carménère

ถึงเมืองมาโกซ์ถูกนิยามให้เป็นเมืองแห่งไวน์แดง และส่งออกไวน์แดงชื่อดังเป็นหลัก แต่ก็ยังมีบางโรงผลิตที่ได้เพาะปลูกไวน์พันธุ์องุ่นไวน์ขาวในไร่ด้วย โดยพันธุ์องุ่นนั้นเป็นชนิดที่สามารถนำมาบ่มเป็นไวน์ขาวได้โดยใช้องุ่นเพียงพันธุ์ด้วย ได้แก่ Sauvignon Blanc

สูตรการเบลนด์ไวน์แดงบอร์โดซ์จากเมือง Margaux ยอดนิยม:

1. Cabernet Sauvignon + Malbec + Petit Verdot + Merlot
2. Cabernet Sauvignon + Cabernet Franc + Petit Verdot + Merlot
3. Cabernet Sauvignon + Cabernet Franc + Malbec + Petit Verdot + Merlot

สูตรการเบลนด์ไวน์ขาวจากเมือง Margaux:

1. Sauvignon Blanc (100%)

 

รสสัมผัสที่ได้จากการดื่มไวน์ Margaux จะมีความเป็นเอกลักษณ์ คือรสไวน์แดงอันเข้มข้นถึงใจแบบ full body และมีกลิ่นผลไม้หวานหอมให้ดื่มจนหมดขวดได้อย่างไม่รู้ตัว สร้างประสบการณ์การดื่มที่เพลินแบบทานคู่อะไรก็ได้ โดยรสกลิ่นที่จะได้รับจากไวน์สูตรเมืองมาโกซ์ ก็ขึ้นอยู่กับสูตรการเบลนด์และการหมักไวน์ในกรรมวิธีต่าง ๆ ของโรงผลิตนั้นด้วย แต่ถ้าขึ้นชื่อว่าเป็นไวน์แดงจากมาโกซ์ การันตีรสชาติไวน์ที่ครบรส หอม เข้ม เต็มคำ และทิ้งรสที่ปลายลิ้นอย่างยาวนานได้เลย

1 ใน 5 ไวน์อรหันต์ชื่อดังของโลก ถูกผลิตที่เมือง Margaux

ด้วยชื่อเสียงที่ร่ำลือของเมืองมาโกซ์ผู้ส่งออกไวน์ระดับ Grand Cru Classé มากมายมาจนถึงปัจจุบัน เมืองนี้ยังเป็นที่ตั้งของโรงผลิต 1 ใน 5 ไวน์อรหันต์ที่ทั่วโลกรอจับจอง อย่าง Château Margaux โดยชื่อไวน์อรหันต์นี้ มาจากการเป็น Premier Grand Cru Classé และคุณภาพการผลิตที่หาจับตัวยากตั้งแต่รอบการผลิต เพราะปีทองของการผลิตไวน์ตัวนี้มีหลายปีมาก ๆ ได้แก่ 1928, 1961, 1966, 1967, 1970, 1974, 1982, 1986, 1989, 1990, 1995, 1998 และ 2000 ซึ่งทุกขวดของไวน์ Château Margaux สามารถครองใจคอดื่มได้เสมอ ด้วยรสไวน์แดงที่ให้ประสบการณ์การดื่มที่ดีงาม อวลกลิ่นหอมของผลไม้ที่ชัด และเพลิดเพลินจนจบคำ ทำให้ไวน์จากเมือง Margaux แห่งนี้ มีชื่อเสียงยิ่งขึ้นและมีราคาที่สูงขึ้นอีก

ที่มาของไวน์ Château Margaux กว่าจะมาเป็นไวน์อรหันต์ที่คอดื่มทั่วโลกตามหา

ไวน์ฝรั่งเศสระดับ Premier Grand Cru Classé หรือ Château Margaux ถือกำเนิดขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 15 ที่โรงผลิต La Mothe de Margaux ไวน์ตัวนี้ถูกขายต่อกันมาประมาณ 8 ตระกูล โดยปัจจุบันได้ตกเป็นของตระกูล Mentzelopoulos และถึงแม้จะมีการเปลี่ยนเจ้าของโรงผลิตมามากมาย คุณภาพการผลิตไวน์ของ Château Margaux ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย แต่กลับมีการดูแลการผลิตที่ดีและทันสมัยกว่าเดิม และนอกจากจะมีไวน์แดงที่จัดว่าแพงที่สุดในโลกแล้ว โรงผลิตแห่งนี้ยังได้ผลิตไวน์ขาวชั้นเลิศอย่าง Pavillon Blanc du Château Margaux ด้วย โดยเป็นไวน์ขาวจาก Sauvignon Blanc ที่ผ่านการบ่มด้วยกรรมวิธีอันละเอียดอ่อนและได้มาตรฐาน ไวน์ทุกตัวที่ส่งออกจาก Château Margaux ถือเป็นไวน์ชั้นแนวหน้าจากประเทศฝรั่งเศส ที่ได้การยอมรับจากทั่วโลก และได้คะแนนจากนักรีวิวไวน์มากกว่า 90 คะแนนขึ้นไป นับเป็นหนึ่งในไวน์เบอร์ต้น ๆ ของโลก และมีราคาสูงเป็น TOP 10 ของไวน์ที่แพงที่สุดในโลก