เมือง Pauillac หนึ่งในย่านผู้ผลิตไวน์แดงบอร์โดซ์ตัวเด็ด ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก

ผู้ผลิตไวน์จากเมืองปูญาค (Pauillac) ที่ Médoc แคว้นบอร์โดซ์ ประเทศฝรั่งเศส เป็นหนึ่งในย่านการผลิตไวน์รับรองโดย AOC ได้สร้างชื่อในเรื่องของการผลิตไวน์แดงคุณภาพดีเลิศชื่อดังระดับโลก โดยคำจำกัดความที่คอดื่มมักจะพูดถึงไวน์จาก Pauillac คือคำว่า “งดงาม” ด้วยรสไวน์ full body ที่จบที่ปลายลิ้นอย่างเนิ่นนานและนุ่มนวล ชวนให้นักดื่มอยากสัมผัสประสบการณ์ดื่มไวน์ดีแบบนี้อีก โดยเมือง Pauillac มีไวน์รุ่นท็อปที่สร้างชื่อเสียงไว้อย่างยาวนาน และยังคงถูกถามหาจากคอดื่มแม้จะมีราคาที่สูงก็ตาม

นอกจากนั้นไวน์ปูญาคยังสร้างชื่อเสียงให้กับไวน์ในย่านด้วยการรับรองไวน์ชั้นยอดตั้งแต่ First Growth จาก Médoc Classification ปีค.ศ. 1855 เป็นการคัดเลือกไวน์ที่คุณภาพดีที่สุดตั้งแต่ยุคริเริ่มของการผลิตไวน์ดีระดับโลก ในหนึ่งปีเมือง Pauillac จะส่งออกไวน์ไปทั่วโลกได้มากถึง 8,000,000 ขวด

ไวน์แดงจากเมืองปูญาค (Pauillac)

เมืองปูญาคจะเน้นการผลิตไวน์แดงเป็นหลัก ผลองุ่นที่ได้จากภูมิภาคนี้จะมีความสุกฉ่ำให้รสชาติเต็มปากเต็มคำ ไวน์ที่ผลิตจากเมืองนี้จึงมีรสของไวน์แดงที่ให้รสกลิ่นอันเข้มข้นหอมผลไม้ อีกทั้งยังเป็นไวน์แดงสีทับทิมที่มีเนื้อไวน์ข้นด้วยกรรมวิธีการบ่มวินเทจเป็นระยะเวลาหลายปี โดยจุดเด่นของไวน์จากแถบ Pauillac จะเป็นเรื่องของรสชาติที่เข้มเต็มคำและให้รสสัมผัสอันนุ่มนวลชวนให้ดื่มเพลินไม่รู้จบ โรงผลิตหลายยี่ห้อในเมืองนี้ โดยรวมแล้วมีจำนวนมากกว่า 110 ไร่ ถึงสามารถสร้างชื่อเสียงในเรื่องการส่งออกไวน์แดงชั้นดีไปถึงมือนักดื่มทั่วโลกได้ ไวน์ที่ย่านนี้ตั้งอยู่ทาง Left Bank ของ Bordeaux และสามารถเพาะปลูกองุ่นบอร์โดซ์ได้ 6 ชนิดด้วยกัน ได้แก่

1. Cabernet Sauvignon
2. Merlot
3. Cabernet Franc
4. Malbec
5. Petit Verdot
6. Carménère

นักดื่มไวน์ที่รู้จักไวน์ Pauillac ดี จะเลือกเอจไวน์ต่อในเซลลาร์ของตัวเอง เพื่อให้ได้รสชาติไวน์แดงหอมอโรม่าที่มีกลิ่นอันซับซ้อน แทนนินเนียนนุ่มหวาน และอ่อนนุ่มในรสสัมผัสยิ่งขึ้นไปอีก โดยไวน์บางตัวของปูญาคจะสามารถเก็บขึ้นหิ้งและวินเทจได้นานที่สุดถึง 30 ปีเลยทีเดียว และจุดแข็งในเรื่องการเก็บเข้าเซลลาร์ต่อได้ยาวนานหลายสิบปีของไวน์ปูญาคก็ทำให้ไวน์ตัวท็อปจากแต่ละปียิ่งหายาก และมีไวน์ตัวท็อปบางตัวจากเมืองนี้มีอายุการวินเทจมากกว่า 100 ปีด้วย

สูตรการเบลนด์ไวน์แดงบอร์โดซ์จากเมือง Pauillac ยอดนิยม:

1. Cabernet Sauvignon + Cabernet Franc + Petit Verdot + Merlot + Carménère
2. Cabernet Sauvignon + Cabernet Franc + Petit Verdot + Merlot

ไวน์ชั้นดีที่ถูกผลิตจากเมือง Pauillac

ด้วยกระบวนการผลิตระดับคุณภาพ ตั้งแต่สภาพพื้นดินที่เหมาะสมกับการเพาะปลูกไวน์แดงเนื้อแน่น ๆ ดินในเมืองปูญาคจะมีความเป็นดินหินกรวดร่วน ๆ ผสมกับดินอื่น มีพื้นที่ลาดเอียง อยู่ไม่ไกลจากชายทะเล และยังมีภูมิอากาศและลมพัดผ่านอย่างพอดีทำให้ผลผลิตองุ่นที่เมืองนี้มีความอุดมสมบูรณ์และสดฉ่ำเต็มที่ ไวน์ตัวท็อปที่ได้การยอมรับจากคอไวน์ทั่วโลกก็ถูกผลิตขึ้นที่นี่ และเป็นไวน์ระดับ Grand Cru Classé อาทิ Mouton Rothschild, Lafite Rothschild, Château Latour และ Château Clerc Milon เป็นต้น ปีทองของไวน์ปูญาคที่โดดเด่นมีเยอะมากหากย้อนตั้งแต่ปีล่าสุด ตั้งแต่ปีค.ศ. 2022, 2021, 2020, 2019, 2018, 2017, 2016, 2015, 2014, 2010, 2009, 2008, 2006, 2005, 2003, 2000, 1996, 1995, 1990, 1989, 1985, 1982, 1961, 1959, 1955, 1953, 1949, 1948, 1945, 1929, 1928 และ 1900

ประวัติที่มาของเขตการผลิตปูญาค (Pauillac)

อันที่จริงแล้วจุดเริ่มต้นของการผลิตไวน์ในเขตนี้ เริ่มมาตั้งแต่ยุคแรกของการปลูกไร่องุ่นในช่วงปีหลังของคริสต์ศตวรรษที่ 13 แต่ในยุคนั้นการเพาะปลูกในแต่ละไร่ห่างไกลจากกันและมีพื้นที่ในการปลูกไม่ได้เยอะ อีกทั้งยังไม่ได้มีวิทยาการด้านการเกษตรในการปลูกไร่องุ่นเท่าไรนัก ด้วยความที่ผลผลิตทางเกษตรอื่นกำลังเป็นที่ต้องการมากกว่า จนกระทั่งช่วงเข้าสู่คริสต์ศตวรรษที่ 15 ถึง 17 ที่ผลผลิตจากการปลูกไร่องุ่นเริ่มมีการขยายอาณาเขตในการเพาะปลูกและเป็นที่นิยมมากขึ้น และด้วยจุดแข็งของพื้นที่ในเมืองที่ใกล้กับชายฝั่ง ทำให้การกระจายสินค้าไวน์จากโรงผลิตต่าง ๆ ในเมืองปูญาคทำได้ง่ายและรวดเร็ว เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ Pauillac กลายเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดและป็อบที่สุดใน Médoc

 

ข้อโดดเด่นของไวน์จากเมืองปูญาค (Pauillac) คือหลังจากถูกเก็บเข้าเซลลาร์และเอจไว้เพื่อรอดื่ม ยิ่งนานปี รสไวน์ที่ได้จะยิ่งตราตรึง ชวนให้ผู้ดื่มได้สัมผัสประสบการณ์การดื่มที่ลืมไม่ลง เพราะความละเอียดอ่อนและความหอมผลไม้จากไวน์แดงของเมืองนี้ มีรสที่พอดีคำ เป็น Full body มีแทนนินที่นุ่ม ให้รสเข้มและอ่อนหวานในแต่ละจิบกลมกล่อมเข้าปากอย่างลงตัวที่สุด และทิ้งรสไว้ที่ปลายลิ้นได้นานจนฉ่ำ